เที่ยวลาวใต้ 3 วัน 2 คืน มหัศจรรย์สารพัดน้ำตก วันที่ 3 (สุดท้าย)

วันที่ 3

น้ำตกตาดฟาน - น้ำตกผาส้วมและหมู่บ้านชนเผ่าจำลอง 8 ชนเผ่า 

ที่แรกในวันนี้คือน้ำตกตาดฟาน ตาดคือน้ำตก ฟานคือเก้ง น้ำตกนี้เป็นน้ำตก 2 สาย ที่ตกจากหน้าผาสู่รูเหวเบื้องล่าง น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว น้ำตกนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พัก ขับออกไปเพียง 30 ก.ม.

น้ำตกตาดฟาน

ดอกลำโพง หรือ "ดอกฮัลโหล" ของประเทศลาว

หลังจากชื่นชมน้ำตกลงรู เราก็มาหมดเนื้อหมดตัวกับผลิตภัณฑ์ OTOP ผ้าทอมือที่นี่ คิดรึว่าจะรอดตัวกับการช็อปไปได้

ผ้าทอมือที่ขายหลายหลากสี

ที่ต่อไปคือน้ำตกตาดเยือง เยืองคือเลียงผา ที่เขาเอาน้ำมันเลียงผามาทาแก้ปวดแก้เมื่อย จะจริงไม่จริงอันนี้ก็ไม่ทราบได้ ที่นี่ทางเดินลงค่อนข้างชัน ขาลง ไปน้ำตก เขาว่าจะเห็น "สาวลาว" ส่วนขาปีนขึ้นกลับมา เขาว่าจะเห็น "ขาอ่อนสาวลาว" ฟังดูลุ้นๆยังไงไม่รู้ จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน



ที่ว่าขาลงเห็น "สาวลาว" นั้น ก็คือ ตอนไต่ลง เราก็จะใช้มือของเรา สาวราวจับไปด้วย

ทางเดินไข้วไปมา ให้ลงไปชื่นชมน้ำตกใกล้ๆได้

สาวราวไปเรื่อยๆ

ในที่สุดก็ไต่ไปชื่นชมน้ำตกใกล้ๆ

ส่วนขากลับขึ้นมา...
ทางมันชัน แข้งขาเริ่มอ่อน แต่มือยังสาวราวจับอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของ "ขาอ่อน (ขาหมดแรง) สาวลาว (สาวราว)" อย่างนี้....นี่เอง....

เหนี่อยนัก ก็แอ๊บถ่ายรูปแมวข้างทาง

เดินทางกันต่อ ไปยังอีกน้ำตกหนึ่ง สถานที่สุดท้ายของทริปนี้ นั่นก็คือน้ำตกผาส้วมและพื้นที่แสดงหมู่บ้านชนเผ่าจำลอง 8 ชนเผ่า

เราเดินชมหมู่บ้านชนเผ่าจำลองกันก่อน พื้นที่นี้ เป็นที่สัมปะทานของคุณวิบูล กิจบำรุง ซึ่งดูแลอยู่เป็นอย่างดี ไอเดียแสดงหมู่บ้านชนเผ่าจำลอง 8 ชนเผ่า ให้เดินศึกษาหาความรู้นี้ ก็เป็นไอเดียของเฮียแกนั้นแหละ

ทางเข้าหมู่บ้านชนเผ่า

เด็กๆในหมู่บ้าน

โชว์ทอผ้า

บ้านชนเผ่าแต่ละสไตล์

อีกเผ่า

และอีกเผ่า (ลืมจด ว่าเผ่าอะไรกันบ้าง อยากรู้ไปดูกันเองเด้อ)

สาวๆบนบ้าน

สาวชนเผ่าออกมาโชว์ตัว

อันนี้บ้านไก่ ไม่ใช่บ้านคน

พิพิธภัณฑ์ชนเผ่า กลางหมู่บ้าน

สะพานสาน ทางเดินไปน้ำตกผาส้วม

น้ำตกผาส้วม ซึ่งส้วม ภาษาลาวคือห้อง ตามรูปของน้ำตกคือจะอยู่ในซอกห้องหลบมุมเข้าไป

ไอศครีม หมากข้าวที่มีผลเป็นหนามสั้นๆ

ของขายตามทางไปน้ำตก

รวงข้าวเหนียวมัด ที่คล้ายๆข้าวต้มมัด

เบ็ดเสร็จหมดแล้วทุกน้ำตก แต่ไกด์ของเราบอกว่าความจริงยังมีน้ำตกอีกเยอะ คงต้องแบ่งเป็นทริปหน้า

ก่อนเดินทางกลับช่องเม็ก เราแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ริมแม่น้ำโขง ณ. ปากเซแห่งนี้

ร้านริมโขงตรงปากเซ ชื่อ "เรือนแพคำฟอง"

ทางเดินลงร้าน

มื้อสุดท้ายก่อนกลับเข้าฝั่งไทย

ก็เป็นอันจบสิ้นทริปลาวใต้กันเพียงเท่านี้ เราออกจากฝั่งลาวประมาณ บ่าย 3 โมง นั่งรถกลับไปถึงอุบล แวะซื้อแหนมกับหมูยอในเมืองอุบลกันเล็กน้อยก่อนบินกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

โพสต์นี้ เป็นโพสต์ที่เขียนยาวสุดในชีวิต อาจทำให้ผู้อ่านตาเหล่หมดใจอ่านกันไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดีต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาเจอถึงบรรทัดนี้ ถึงเวลาผู้เขียนอาบน้ำแปรงฟันพักผ่อนกายากันบ้าง เก็บแรงไว้เขียนแชร์ทริปต่อไป ด้วยประการฉนี้.

ดูรีวิวอื่นๆ>> Review List

เที่ยวลาวใต้ 3 วัน 2 คืน มหัศจรรย์สารพัดน้ำตก วันที่ 2

วันที่ 2

น้ำตกหลี่ผี - น้ำตกคอนพะเพ็ง

ตื่นนอน 6:00น. อาบน้ำแต่งตัวลงมาทานอาหารเช้ากัน วันนี้ล้อหมุน 8:00น. ต้องทำเวลากันหน่อย

ตัวอย่างอาหารเช้า เป็น Buffet (แขกมี 4 คน ก็ทำBuffet ขอปรบมือให้)

ที่แรกที่เราไปในวันนี้ คือน้ำตกหลี่ผี แต่ต้องขอเล่าเรื่องราวการเดินทางซักเล็กน้อย เพราะการจะไปถึงน้ำตกหลี่ผีนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ต้องมีการต่อรถต่อเรือ ซึ่งจะขอเริ่มเล่าเรื่องเลยแล้วกัน

เรานั่งรถตู้จากที่พัก มาถึง ท่าเรือบ้านนากะสัง

เราลงเรือกันที่นี่

เริ่มต้นเดินทางด้วยเรือ

บริเวณนี้มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า "มหานที 4000 ดอน" ดอนก็คือเกาะ ที่ตรงนี้มีเกาะมากหลาย เกาะเล็กเกาะใหญ่

พื้นที่นี้เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงแตกกระจายเป็นหลายสาย ทำให้มีเกาะแก่งตรงกลาง จุดที่กว้างที่สุดของฝั่งแม่น้ำมีความกว้าง 15 ก.ม. สมัยก่อนเรือสำเภาฝรั่งเศสวิ่งจากปากน้ำโขงขึ้นมาถึงบริเวณนี้ แต่ไม่สามารถวิ่งทะลุผ่านบริเวณนี้ไปได้เพราะมีเกาะเล็กเกาะน้อยขวางอยู่เป็นจำนวนมาก ด้านซ้ายสุดก็ไปไม่ได้ เจอน้ำตกหลี่ผีขวางอยู่ ด้านขวาสุดก็เจอน้ำตกคอนพะเพ็งขวางเช่นเดียวกัน พวกฝรั่งเศสจึงตัดสินใจ สร้างทางรถไฟ ผ่านบริเวณนี้ไป

เรานั่งเรือออกจากท่าเรือบ้านนากะสังเพื่อไปขึ้นรถอีกครั้งที่ท่าเรือบ้านดอน อยู่บนเกาะที่ชื่อว่าเกาะดอนเดด บนเกาะนี้มีโฮมสเตย์ด้วย แขกส่วนใหญ่เป็นฝรั่งแบคแพคเกอร์ บนเกาะมีจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวเล่น ที่ท่าเรือบ้านดอนนี้ เราจะเห็นท่าเทียบเรือสำเภาฝรั่งเศสตั้งตระหง่านเป็นเศษเหล็กชิ้นโตอยู่

เกาะดอนเดด และโฮมสเตย์ริมน้ำ

ที่เทียบเรือสำเภาโบราณของพวกฝรั่งเศส

 ชักภาพซักนิดแล้วกระโจนขึ้นรถ 5 แถว ซึ่งจะแล่นไปตามทางรถไฟหัวจักรไอน้ำสายเก่า รางรถไฟไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว เค้าเอาไปขายเจ๊กกันหมดตั้งแต่เลิกใช้รางรถไฟ

รถ 5 แถว ที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือบ้านดอน

รถขับไปตามทางรถไฟสายเก่า

ซากหัวรถจักรไอน้ำโบราณของฝรั่งเศส

 รถ5แถว พาเราข้ามจากเกาะดอนเดด ไปยังเกาะดอนสัก มีสะพานเล็กๆเชื่อม 2 เกาะนี้ไว้ บนเกาะดอนสักนี้เอง เป็นที่ตั้งของน้ำตกหลี่ผี

สะพานด้านหน้าเข้าน้ำตก

ซุ้มไผ่รูปร่างน่าสนใจ ระหว่างทางเดินไปน้ำตก

น้ำตกหลี่ผี

ช่วงนี้น้ำใสไม่เหลืองถ่ายภาพออกมาสวยเหมือนในโฆษณา แถมยังมีโขดหินพอให้เห็นว่าเป็นน้ำตก

เขตอันตราย ห้ามเล่นน้ำ

น้ำตกหลี่ผี ชัดๆอีกภาพ สาเหตุที่ชื่อว่า "หลี่ผี" เพราะว่า เกาะแก่งที่มีมากมายนี้ทำให้เป็นจุดที่มีซากศพมาเกยตื้นกันบ่อยๆ

ลำธารที่ไหลต่อจากน้ำตกหลี่ผี

แมวบนรถลากโบราณ ระหว่างทางเข้าห้องน้ำ

เราแวะพักทานอาหารกลางวันที่นี่ นั่งสักพักก็เดินทางนั่งรถต่อเรือกลับไปยังรถตู้คันเดิม ซึ่งพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางต่อไปยังน้ำตกคอนพะเพ็ง

โชคดีที่การเดินทางไปน้ำตกคอนพะเพ็ง ไม่ต้องนั่งรถ ต่อเรือ เช่นเดียวกับการไปถึงน้ำตกหลี่ผี การบริหารจัดการที่น้ำตกคอนพะเพ็งดีงามน่ายกย่องทีเดียว 

รถกอล์ฟจอดรอรับไปดูน้ำตกคอนพะเพ็ง

น้ำตกคอนพะเพ็ง

คอนพะเพ็งอีกมุม

ด้านที่ถัดไปจากน้ำตก

ไม่ไกลจากลานจอดรถมีตู้กระจกที่มีไม้ล้มอยู่ในตู้ ไม้นี้เคยมีชีวิตอยู่ก่อนปี 2012 ถือเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองของประเทศ มีชื่อว่าต้นไม้มะนีโคด เป็นต้นไม้พันธ์ุที่เรียกว่ามะนีโคด มีต้นเดียวในโลก บนยอดมี 3 กิ่งใหญ่ๆ กิ่งหนึ่งชี้ไปลาว กิ่งหนึ่งชี้ไปเขมร อีกิ่งชี้ไปไทย ซึ่งเขาเชื่อกันว่าบ่งบอกถึงความเป็นสามเมืองมรกตแห่งอินโดจีน ต้นพันธุ์นี้มีเรื่องเล่ามากหลาย อยากรู้ต่อหากูเกิ้ลเอาเด้อ

ที่นี่มีร้านกาแฟให้นั่งชิวคลายร้อนด้วย นั่งชิวซักหน่อยก่อนกลับที่พัก

โซดาลาวแก้กระหาย

ป้ายน้ำตก

ก็เป็นอันสิ้นสุดการเที่ยววันที่ 2 ระหว่างทางมีแวะกินกาแฟตรานกแก้วด้วย

โปรดติดตามตอนที่ 3... http://luxurybarefoot.blogspot.com/2015/05/3-2-3.html

ดูรีวิวอื่นๆ >> Review List